การสร้างอาชีพ จากการขายแกงกะทิสายบัวปลาทูนึ่ง กะทิหอมหวานมันกลมกล่อมครบรส อาหารไทยขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่สดใส กลิ่นหอมของเครื่องเทศและส่วนผสมที่ผสมผสานกันอย่างมีเอกลักษณ์ อาหารจานหนึ่งที่น่ารับประทานคือแกงกะทิสายบัวกับปลาทูนึ่งหรือแกงกะทิสายบัวปลาทูนิ่ง แกงแบบดั้งเดิมนี้ผสมผสานความครีมมี่ของกะทิ ความกรุบกรอบสดชื่นของสายบัวและรสชาติที่อร่อยของปลาทูนึ่ง สร้างสรรค์เนื้อสัมผัสและรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
แกงกะทิสายบัวปลาทูนึ่งเป็นอาหารไทยยอดนิยมที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมหวานมันกะทิ เปรี้ยว เค็ม เผ็ดเล็กน้อย ครบรส
วัตถุดิบ
ในการทำอาหารจานนี้ คุณจะต้องมี:
กะทิ 300 มล.
ก้านบัว 200 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
ปลาทูนึ่ง 2 ตัว (แกะกระดูกออก)
พริกแกงแดง 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดฉีก 5-6 ใบ
พริกสดหั่นเป็นแว่น (ไม่จำเป็น สำหรับตกแต่ง)
ใบโหระพาไทยสำหรับความหอมสดชื่น
คำแนะนำในการปรุงอาหาร
1. เตรียมก้านบัว:
แช่ก้านบัวที่หั่นแล้วในน้ำเกลือประมาณ 10 นาทีเพื่อให้คงความกรอบไว้ สะเด็ดน้ำแล้วพักไว้
2. ทำฐานแกง:
ตั้งกระทะบนไฟปานกลางแล้วใส่กะทิลงไปเล็กน้อย คนจนน้ำมันเริ่มแยกตัวออกจากกะทิ ใส่พริกแกงแดงลงไป คนให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม
3. ใส่ส่วนผสมเครื่องปรุง:
เทกะทิที่เหลือลงไปแล้วต้มให้เดือดเบาๆ เติมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และใบมะกรูด คนจนเข้ากันดีและน้ำตาลละลาย
4. ต้มก้านบัว:
ใส่ก้านบัวลงไปแล้วเคี่ยวประมาณ 5-7 นาที จนก้านบัวสุกแต่ยังคงกรอบอยู่
5. ใส่ปลาแมคเคอเรลนึ่ง:
ใส่ปลาแมคเคอเรลนึ่งลงในแกงเบาๆ เคี่ยวต่ออีก 2-3 นาทีเพื่อให้รสชาติเข้ากัน
6. เสิร์ฟ:
ตกแต่งด้วยใบโหระพาและพริกสดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและเผ็ดร้อน เสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวหอมมะลินึ่ง
ความสุขในการรับประทานอาหาร
แกงกะทิก้านบัวกับปลาทูนึ่งเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของความสมดุลและความกลมกลืนที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย ความหวานละมุนของกะทิช่วยเสริมรสชาติของก้านบัวและรสชาติที่เข้มข้นของปลาทู มอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจและรสชาติที่อร่อยในทุกคำที่กัด
เมนูนี้นอกจากจะอร่อยแล้วยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย ลำต้นของดอกบัวอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ในขณะที่ปลาแมคเคอเรลมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็น